ประชาธิปัตย์ประเดิม ก้าวใหม่เปิดเวที “เดโมแครต ฟอรั่ม” ประเด็นฮ็อต“เศรษฐกิจคาร์บอน : โอกาสในวิกฤตโลกรวนน้ำท่วมภัยแล้งสุดขั้ว“
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยวันนี้ว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังเดินหน้าสู่ยุคปรับเปลี่ยน(Democrat in Transformation)จากองค์กรพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดสู่องค์กรพรรคการเมืองของประชาชนที่ก้าวหน้าทันสมัยทันโลกเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศทุกมิติทั้งมิติการพัฒนา การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีตามนโยบายและวิสัยทัศน์ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคโดยเฉพาะประเด็นเมกะเทรนด์ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยโดยตรงทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ล่าสุดคือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมอย่างรุนแรงในหลายภูมิภาคของประเทศไทยและประเทศต่างๆจากภาวะโลกรวนโลกร้อนทะเลเดือดแบบสุดขั้ว
พรรคประชาธิปัตย์จึง เปิดเวที เดโมแครต ฟอรั่ม (Democrat Forum)ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ ”เศรษฐกิจคาร์บอน : โอกาสในวิกฤตโลกรวนน้ำท่วมภัยแล้งสุดขั้ว“
ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ระหว่างเวลา 9.00 -11.00 ณ สำนักงานใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์
มีเป้าหมาย 3 ประการ
1.สร้างการรับรู้ถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
2.เปิดพื้นที่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูล สภาพปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
3.การกำหนดมาตรการและนโยบายของพรรค
โดยมีวิทยากรทั้งภาครัฐภาคเอกชนภาควิชาการและภาคประชาชนเช่น ตัวแทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ตัวแทนภาครัฐเช่นกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมและองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ตัวแทนสื่อมวลชน ตัวแทนภาคประชาสังคมและผู้แทนพรรคมาร่วมในการเสวนาครั้งนี้โดยมี ส.ส.ร่มธรรม ขำนุรักษ์เป็นผู้ดำเนินรายการ
อดีตรัฐมนตรีอลงกรณ์ ยังกล่าวต่อไปว่า “ความท้าทายสำคัญในปัจจุบันและอนาคตคือผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Climate Change)ที่รุนแรงและรวดเร็ว นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการ สหประชาชาติ กล่าวเตือนไว้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วว่า สามสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2023 ทำสถิติ ร้อนที่สุดเท่าที่เคยวัดกันมา โลกร้อนขึ้น 1.5 องศา การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเกิดขึ้นแล้ว เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก และนี่แค่จุดเริ่มต้น เป็นจุดจบของ ภาวะโลกร้อน และเป็น จุดเริ่มต้นของภาวะโลกเดือด (Global Boiling)
จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ประเทศไทยต้องเร่งขับเคลื่อนสู่เป้าหมายว่าความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี 2050 และคาร์บอนเป็นศูนย์หรือซีโร่คาร์บอนภายในปี 2065 เพื่อรับมือกับภาวะโลกรวนโลกร้อนทะเลเดือดแบบสุดขั้วซึ่งเป็นภัยคุกคามต่ออนาคตของประเทศไทย ในมุมมองของพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าเราสามารถสร้างโอกาสในวิกฤตโดยสร้างโมเดลเศรษฐกิจคาร์บอน(Carbon Economy)ครอบคลุมตั้งแต่คาร์บอน ฟุ้ตปริ้นท์(carbon footprint) คาร์บอน เครดิต(carbon credit)จนถึงมาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน(CBAM:Carbon Border Adjustment Mechanism)สามารถสร้างงานสร้างอาชีพสร้างเทคโนโลยีสร้างธุรกิจและสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศจึงได้จัดเวทีเดโมแครต
ฟอรั่มในประเด็นดังกล่าว“